ReadyPlanet.com


SUBLIMATION และวัฏจักรของสายธาร ...


การระเหิดคืองานแปลงระหว่างของแข็งกับเฟสของแก๊สโดยปราศจากขั้นตอนกลางๆของของเหลวเหตุด้วยพวกเราที่สนใจวัฏจักรของน้ำงานระเหิดโดยมากใช้เพื่ออธิบายกระบวนการที่หิมะด้วยกันน้ำแข็งผลัดกันสถานะครอบครองไอลำธารในอากาศโดยเปล่าละลายคล่องก่อนสิ่งที่ตรงข้ามกับการระเหิดคือ "การสั่งสม" ซึ่งไอลำธารจะแปลงเป็นน้ำแข็งต่อหน้า 14 เกล็ดหิมะและน้ำค้างแข็งเช่นนี้

ไม่ใช่ความง่ายที่จะเห็นการพ้นเกิดขึ้นแน่ๆอย่างน้อยก็ไม่ใช่กับดักน้ำแข็งวิธีหนึ่งที่การดูผลลัพธ์ของการระเหิดคือเกี่ยวเสื้อที่เปียกไว้นอกในวันที่ลมฟ้าอากาศต่ำกว่าอุณหภูมิต่ำในที่สุดน้ำแข็งเปล่าในเสื้อก็จะหายไปที่จริงกรรมวิธีที่บริสุทธ์ที่สุดที่การเหลือบเห็นภาพระเหิดคืองานไม่ใช้คืนน้ำเกิน แต่แยกออกใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แทนถ้าเธอไม่รู้แหวฉันคืออะไรเผชิญดูรูปน้ำแข็งแห้งนี้สิ"น้ำแข็งแห้ง" ดำรงฐานะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่แข็งตัวซึ่งเกิดจากการระเหยไม่ก็เปลี่ยนเป็นก๊าซที่อุณหภูมิ -78.5 ? C (-109.3 ? F)สีเทาที่คุณเห็นนั้นเป็นองค์ประกอบของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เวลาเย็นและสภาพอากาศเย็นชื้นที่สร้างขึ้นเมื่อน้ำแข็งแห้ง "ละลาย" มันสมอง.มันสมอง อ๊ะเราหมายถึงพ้น

จาก Mtมันสมองยอดเขาเอเวอเรสต์ถึงมารุตชีนุก

Mt. Everest, showing snow blowing off the peak.

ยอดเขาเอเวอเรสต์ซึ่งเสียหิมะปกคลุมบางส่วนด้วยเหตุที่มีพายุหิมะยังสูญหายไปอย่างต่อเนื่องเพราะว่ามองไม่เห็นด้วยเหตุที่การพ้น (เครดิต: Niklassletteland , Wikimedia.org) รับพิมพ์งานซับลิเมชั่น

การระเหิดเกิดขึ้นคว้าง่ายขึ้นไปเมื่อประกอบด้วยสภาพอากาศบางสิ่งเช่นความชื้นสัมพัทธ์ต่ำและลมแห้งงานระเหิดอีกทั้งเกิดขึ้นเติบโตที่ระดับความสูงที่ดอนขึ้นซึ่งความกดอากาศจักน้อยกว่าแห่งระดับความสูงที่ต่ำกว่าจำเป็นต้องใช้คืนพลังงานอาทิแสงแดดจ้าถ้าอิฉันต้องการเลือกสถานที่ที่หนึ่งบนบานโลกเหตุเดิมการพ้นขึ้นเต็มแรงฉันคงเลือกทางใต้ของยอดเขาเอเวอเรสต์อุณหภูมิเสื่อมลงลมแรงแสงแดดจ้าความกดอากาศต่ำยิ่งนัก 14 เป็นเพียงสูตรสำหรับงานระเหิดที่จะบังเกิด

Dave Thurlow จาก Mount Washington Observatory แบ่งออกคำอธิบายที่ดีเกี่ยวข้องการระเหิดใน The Weather Notebook:

"Mother Nature มีมากกว่าหนึ่งวิธีณการกำจัดซ่าโบะหิมะที่ยังไม่ตายใหม่มั่นเหมาะว่าวิธีที่ผ่านพบบ่อยตกขอบคือการหลอมเหลวซึ่งทำให้ทั้งหมดมีความสุขในการเดินย่ำโคลนโคลนและธารา แต่ทางตะวันตกสิ่งของสหรัฐฯมีลมสถานที่เรียกตวาดชีนุกหรือ "ผู้กินหิมะ" ซึ่งเป็นเหตุให้หิมะกลายเป็นกระไอกระแอมก่อนที่มันจะมีโอกาสละลายด้วย "

" ลมแม่ชีนุกเป็นลมทิศตะวันตกจากมหรรณพแปซิฟิกซึ่งความชื้นจะด้ามจิ้วออกมาเมื่อพัดผ่านขุนเขาร็อกกีเมื่อลมเหล่านี้พัดลงมาจากภูเขาไปสู่ที่ราบสูงพวกเลี่ยนสามารถค่อนข้างอ่อนและแห้งจัง - อบอุ่นถึง 60 หรือ 70 องศาเซลเซียสฟาเรนไฮต์ 14; มากกว่า 15 เซลเซียส 14; ความชื้นสัมพัทธ์ สิบ% หรือน้อยกว่าอากาศแห้งมากไม่มีเงินเมื่อปะทะสโนว์เรือแพ็คน้ำสถานที่เป็นน้ำแข็งระเหยไปขนมจากน้ำแข็งดำรงฐานะไอต่อหน้าและโดดข้ามเฟสของเหลวไปทั้งเพสิ่งนี้เรียกว่าการระเหิดด้วยกันเป็น acเป็นวิธีแห่งทำให้หิมะหายป่วยไปที่ทางตะวันตกที่กันดาร "

ไม่สามารถระเหิดได้หากปราศจากความร้อน

ผิไม่มีงานเติมกำลังแรงงาน (ความร้อน) ลงในขั้นตอนน้ำแข็งจักไม่พ้นเข้าไปในที่ไอมันสมองนั่นถือเอาว่าจุดสถานที่แสงแดดมีบทบาทอย่างมากในพื้นแผ่นดินธรรมชาติสายธารมีคุณสมบัติทางกายภาพที่เรียกว่า "ความร้อนจากการกลายเป็นกระไอกระแอม" ซึ่งเป็นผลรวมความร้อนสถานที่ต้องชดใช้ในการทำให้ธารกลายเป็นไอถ้าคุณต้องการความร้อนในจำนวนรวมที่เป็นมั่นเป็นเหมาะความร้อนขนมจากการกลายเป็นไอสรรพสิ่งน้ำคือ 540 แคลอรี่ / กรัมหรือ 2,260 กิโลจูล / กิโลกรัมนั่นรวมความว่าพลังงานแห่งหนมากเกินความจำเป็นในการเปลี่ยนห้วยเป็นน้ำแน่น (ความร้อนแอบแฝงของฟิวชันยาเรือ) ซึ่งเท่ากับ 80 แคลอรี่ / ก.และยังเป็นแรงงานประมาณเบญจเท่าของพลังงานที่ต้องชดใช้ในการทำให้น้ำร้อนจากจุดเยือกแข็งถึงจุดเดือดโดยสรุปจากนั้นจำเป็นต้องใช้คืนพลังงานในที่การระเหิดของน้ำแข็งเปล่าจนตกเป็นไอด้วยกันพลังงานเป็นส่วนใหญ่จำเป็นในขั้นตอนการกลายเป็นกระไอกระแอมน้ำในที่รูปน้ำแข็งเปล่าหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตร (1 กรัม) ต้องใช้พลังงาน 80 แคลอรี่แห่งการละลาย 100 แคลอรี่ถึงจุดเดือดและอีก 540 แคลอรี่ที่จะตกเป็นไอรวมเป็น 720 แคลอรี่งานระเหิดมุ่งหมายการให้อาหารพลังงานเดียวกัน แม้ว่าข้ามเฟสของเหลว



ผู้ตั้งกระทู้ absurdaccountan :: วันที่ลงประกาศ 2021-04-01 16:34:57


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.